Loading...
Menu

รู้จักเรา

บริษัท สำนักพิมพ์ สยาม เรเนซองส์ จำกัด

ผู้ดำเนินงานด้านการส่งเสริมและเผยแผร่ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของสยามประเทศ

บริษัท สำนักพิมพ์ สยาม เรเนซองส์ จำกัด ก่อขึ้นตั้งเมื่อพุทธศักราช ๒๕๕๓ ด้วยวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและเผยแพร่ ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของสยามประเทศ ด้วยการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ทางด้านประวัติศาสตร์ งานศิลปะ และของสะสมล้ำค่า สำหรับนักสะสมและผู้ที่สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

ผลงานเล่มแรกของสำนักพิมพ์คือ หนังสือ "Siam: Days of Glory สมุดภาพความทรงจำ เมื่อครั้งแผ่นดินสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง" ที่จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสครบ ๑๐๐ ปี การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ภายในเล่มมีการรวบรวมภาพต้นฉบับที่งดงามและหายากของสยามประเทศในช่วงศตวรรษ ที่ ๑๙ มากกว่า ๑๙๐ ภาพ ทำให้หนังสือเล่มดังกล่าว ได้รับพระราชทานรางวัลดีเด่นจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการประกวดหนังสือดีเด่น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๔

ต่อมาในปี ๒๕๕๔ ทางสำนักพิมพ์ฯ ได้เปิดตัวหนังสือ "กรุงเก่าเมื่อกาลก่อน ภาพถ่าย ๑๐๐ ปี พระนครศรีอยุธยา" เนื่องในวาระที่นครประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกมาครบ ๒๐ ปี ภาพถ่ายในเล่มเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า ที่บันทึกไว้ในช่วงปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจนถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้หนังสือเล่มนี้ได้รับพระราชทานรางวัลชมเชยจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการประกวดหนังสือดีเด่น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ อีกครั้ง

จากนั้นในปี ๒๕๕๕ ทางสำนักพิมพ์ฯ ได้มีการติดต่อขอซื้อลิขสิทธ์จากพระราชวังฟงแตนโบล เพื่อแปลหนังสือ LE SIAM A FONTAINEBLEAU : L'AMBASSADE DU 27 JUIN 1861 เป็นฉบับภาษาไทย โดยหนังสือดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกเป็นภาษาฝรั่งเศสโดยคณะทำงานของพระราชวังฟงแตนโบล ในวาระครบ ๑๕๐ ปี ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงส่งคณะราชทูตสยามไปประเทศฝรั่งเศสเพื่อเข้าเฝ้าพระจักรพรรดินโปเลียนที่ ๓ เนื้อหาภายในเล่มกล่าวถึงมุมมองของชาวฝรั่งเศสที่อยู่ในยุคจักรวรรดินิยมอันเกรียงไกร การกล่าวถึงผู้มาเยือนจากแดนไกลจึงเป็นสิ่งแปลกใหม่และอาจดูคลาดเคลื่อนจากจดหมายเหตุของเรา รวมถึงภาพถ่ายเครื่องมงคลราชบรรณาการและคณะราชทูตสยาม ซึ่งไม่เคยเปิดเผยในหนังสือเล่มใดมาก่อน ในปี ๒๕๕๖ จึงได้มีการตีพิมพ์หนังสือดังกล่าวเป็นภาษาไทย โดยใช้ชื่อหนังสือว่า "ราชอาณาจักรสยาม ณ พระราชวังฟงแตนโบล : คณะราชทูตสยาม ๒๗ มิถุนายน ค.ศ. ๑๘๖๑"

ผลงานเล่มต่อมาคือ หนังสือ “สมุดตราสะสมเจ้าจอมเลียม ในรัชกาลที่ ๕” ที่บริษัท สำนักพิมพ์ สยามเรเนซองส์ จำกัดได้รับความไว้วางใจจากคุณหญิงเสริมศรี บุนนาค อนุญาตให้เผยแพร่ สมุดตราสะสมเจ้าจอมเลียม ผลงานสะสมชิ้นสำคัญอีกชิ้นหนึ่งของเจ้าจอมเลียม ซึ่งเป็นสมบัติส่วนตัวของอาจารย์ภาวาส บุนนาค อดีตรองราชเลขาธิการ ออกสู่สาธารณชน ซึ่งได้ตีพิมพ์ต้นฉบับจริงทั้งเล่มในส่วนหน้า จำแนกตราออกเป็นหมวดหมู่ จัดทำคำอธิบายตรา พระราชประวัติ พระประวัติและประวัติของเจ้าของตราไว้อย่างละเอียด โดยมีจำนวนตราทั้งสิ้นกว่า ๔๒๓ ดวง ทั้งยังจัดพิมพ์คำอธิบายภาพถ่ายที่ปรากฏในสมุดตราสะสมต้นฉบับอีก ๑๑ ภาพ ที่บางส่วนเป็นภาพฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระปิยมหาราช ตอนท้ายเล่มยังได้เรียบเรียงประวัติ ผลงานด้านศิลปะและการประดิษฐ์ของเจ้าจอมเลียมไว้อีกด้วย ด้วยคุณค่าของหนังสือเล่มนี้ ในฐานะบันทึกประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า สะท้อนรสนิยมและความเปลี่ยนแปลงของสังคมในห้วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ที่สำคัญช่วงหนึ่งของราชอาณาจักรสยาม จึงทำให้ได้รับรางวัลชมเชยหนังสือประเภทสวยงามทั่วไป ในการประกวดหนังสือดีเด่น ประจำปี ๒๕๖๐ จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)

และในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ สำนักพิมพ์สยาม เรเนซองส์ ได้เปิดตัวหนังสือ “DR. THANAT KHOMAN : The Wit & Wisdom of the Leading ASEAN Founder” ซึ่งได้นำเสนออมตะวาจา แนวคิดและวิสัยทัศน์ ตลอดจนอัตชีวประวัติและผลงาน ของ พันเอก (พิเศษ) ดร. ถนัด คอมันตร์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ กฎหมาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่างประเทศ ในฐานะหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ซึ่งกลายเป็นองค์กรสำคัญที่มีบทบาทสำคัญในการประสานความร่วมมือทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ในประชาคมภูมิภาคนี้

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถูกนำมาต่อยอดผลงานหนังสือ สมุดภาพ สยาม เรเนซองส์ : ความทรงจำแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๑ ได้รับเกียรติจาก ม.ล. ภัคภรจันท์ เกษมศรี กรุณาคัดเลือกเอกสารชั้นต้นประกอบขึ้นเป็นเนื้อหา หนังสือเล่มนี้ได้คัดสรรภาพถ่ายและภาพพิมพ์สมัยรัชกาลที่ 4 – ต้นรัชกาลที่ 6 จำนวนกว่า 80 ภาพ ในกรรมสิทธิ์ของสำนักพิมพ์ สยาม เรเนซองส์ นำมาวิเคราะห์เรื่องราวในแง่มุมต่าง ๆ และคลี่คลายเหตุการณ์เบื้องหลังภาพโบราณเหล่านั้นด้วยเอกสารชั้นต้น เพื่อฉายภาพความทรงจำแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ให้กระจ่างยิ่งขึ้น เติมเต็มจินตนาการ และเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจต่อบ้านเมืองและวิถีชีวิตผู้คนในยุคสมัยนั้น

ด้วยกระแสตอบรับที่ดีของ สมุดภาพ สยาม เรเนซองส์ : ความทรงจำแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๑ สู่การจัดทำ สมุดภาพ สยาม เรเนซองส์ : ความทรงจำแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๒ โดยหนังสือเล่มแรกในชุดสมุดภาพสยาม เรเนซองส์ ที่ได้รับกระแสตอบรับ ข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์ และโดยเฉพาะการได้รับรางวัลหนังสือดีเด่นประเภทหนังสือสวยงามทั่วไป ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๑ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แล้วนั้น ในปี ๒๕๖๒ นี้ บริษัท สำนักพิมพ์ สยามเรเนซองส์ จำกัด จึงได้สานต่อผลงานด้วยหนังสือ “สมุดภาพสยามเรเนซองส์ : ความทรงจำแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๒ - Reminiscence of Rattanakosin Vol.2 (1851 - 1911)” อันเกิดขึ้นจากการคัดเลือกภาพถ่ายภาพพิมพ์ ภาพเขียน และเอกสารโบราณในกรรมสิทธิ์ของบริษัท สำนักพิมพ์ สยาม เรเนซองส์ จำกัด โดยได้รับเกียรติอีกครั้งจากหม่อมหลวงภัคภรจันท์ เกษมศรี กรุณาคัดเลือกเอกสารชั้นต้นประกอบขึ้นเป็นเนื้อหา เพื่อคลี่คลายเหตุการณ์เบื้องหลังภาพโบราณเหล่านั้นในฐานะผู้รวบรวมเรียบเรียงเช่นเคย ทั้งนี้การนำเสนอเนื้อหาภายในเล่มที่ ๒ นี้ ได้เพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้น ด้วยจำนวนภาพประกอบกว่า ๑๐๐ ภาพ ซึ่งบางชุดเป็นภาพที่หาได้ยาก หรือเป็นภาพที่นำเสนอมุมมองใหม่ๆ ของบ้านเมืองสยามในระยะเวลาร่วมร้อยกว่าปีนั้น ซึ่งยังไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน สำนักพิมพ์ได้คัดสรรจากหมวดบุคคล ภูมิทัศน์ ความเป็นอยู่ ประเพณี และศิลปวัฒนธรรม โดยพยายามให้ภาพแผ่นดินสยามในระยะเวลาดังกล่าวปรากฏชัดเจนต่อสายตาของผู้อ่านมากที่สุด ประกอบกันกับเอกสารชั้นต้นที่นำมาใช้การจัดทำเนื้อหาหลากหลายประเภท เช่น พระราชสาส์น พระราชหัตถเลขา พระราชดำรัส พระราชนิพนธ์ ราชกิจจานุเบกษา หนังสือพิมพ์ วารสาร บันทึกชาวต่างชาติ พระธรรมเทศนา และกวีนิพนธ์ ด้วยมุ่งหวังให้หลักฐานปฐมภูมิ (หลักฐานชั้นต้น) ประเภทลายลักษณ์อักษรบอกกล่าวเรื่องราวในแง่มุมต่าง ๆ หรือคลี่คลายเหตุการณ์เบื้องหลังภาพโบราณเหล่านั้น จึงทำให้หนังสือเล่มนี้มีอรรถรสที่กลมกล่อม หลากหลาย

ผลงานเล่มล่าสุดที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการพบเจออัลบั้มภาพถ่ายปริศนา หนังสือ สูญแผ่นดิน สิ้นอำนาจ: วาระสุดท้ายของแมนจู จากภาพถ่ายที่พบในสยาม โดยได้บทวิเคราะห์และเนื้อหาโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้สื่อข่าว นักเขียน นักแปล นักค้นคว้าอิสระด้านประวัติศาสตร์ ผู้จรดปากกาส่งบทความด้านการเมือง สังคม และประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสำนักข่าวโพสต์ทูเดย์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดที่ทำงานมาตั้งแต่เริ่มกระโจนเข้าสู่บรรณพิภพอย่างเต็มตัว เจ้าของผลงานหนังสือด้านวรรณกรรมและประวัติศาสตร์จีนและญี่ปุ่นที่ครองใจนักอ่าน อาทิ "สงครามกลางเมืองจีน" และ "การปฏิวัติเมจิ" หนังสือที่จะตามแกะรอยปริศนาเบื้องหลังของภาพถ่ายที่เพิ่งค้นพบในสยาม ที่บอกเล่าการเดินทางดูงานด้านการทหารในเอเชียตะวันออกหลังจากที่ญี่ปุ่นเอาชนะรัสเซียได้หมาดๆ และกำลังจะกลืนเกาหลีเป็นอาณานิคม พร้อมทั้งยังสยายปีกเข้าไปกุมอิทธิพลเหนือจีนตอนเหนือ ย้อนไปถึงจุดเปลี่ยนในความสัมพันธ์ของสยามกับมหาอำนาจในเอเชีย จากจีนสู่ญี่ปุ่น ผ่านสายตาของช่างภาพผู้บันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นบนเส้นทางการขยายอำนาจของญี่ปุ่นเหนือจีนแผ่นดินใหญ่เอเชียตะวันออก ภายใต้การเฝ้ามองอย่างใกล้ชิดของชนชั้นนำชาวสยามเพื่อวางหมากบนกระดานการเมืองโลกที่พร้อมจะพลิกผันได้อยู่เสมอในห้วงเวลาแห่งความวุ่นวายนั้น